ปัจจุบันสังคมไทยมีการเปลี่ยนแปลงในด้านต่างๆซึ่่งแตกต่างจากอดีตมากมาย ซึ่่งการเปลี่ยนแปลงนี้อาจไปได้ทั้งด้านขาวและด้านดำ ยิ่งระยะมีบ้านเมืองกำลังเกิดความวุ่นวาย มีปัญหานานานำประการอาจเป็นเหตุให้ประชาชนเกิดความตึงเครียดในการดำเนินชีวิตประจำวัน ต้องคิดเรื่องนูนเรื่องนี้ เงินที่จะต้องใช้พอหรือไม่ เศรษฐกิจเป็นอย่างไร และขณะนี้เราต้องทำอย่างไรให้บ้านเมืองสงบสุข ประชาชนดำเนินชีวิจอย่างเรียบง่ายและก้าวทันโลกภายนอก สามารถที่จะแข่งขันกับประเทศอื่นได้ และการทำให้บ้านเมืองสงบสุขก่อนนั้นเป็นเรื่องที่สำคัญเพราะถ้าบ้านเมืองไม่สงบสุข ความสามัคคีก็จะหายไป แล้วประเทศเราจะเอากำลังที่ไหนไปสู่กับประเทศอื่นเขาได้
ความหมาของคำว่า "สงบสุข" คือ อย่างเรียบร้อยเป็นปกติไม่ทุกข์ร้อนใด ซึ่งเราจะเห็นได้ว่าประเทศไทยในอดีตบ้านเมืองมีความสงบสุข เจริญรุ่งเรืองมาช้านาน ดังเห็นตัวอย่างเช่น ในหลักศิลาจารึกของพ่อขุนรามคำแหงมหาราช ที่ได้จารึกไว้ว่า "เมื่อชั่วพ่อขุนรามคำแหง เมืองสุโขทัยนี้ดี ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว เจ้าเมืองบ่เอาจังกอบในไพร่ลู่ทาง เพื่อนจูงวัวไปค้า ขี่ม้าไปขาย ใครจักใคร่ค้าช้างค้า ใครจักใคร่ค้าม้าค้า ใครจักใคร่ค้าเงินค้าทองค้า ไพร่ฟ้าหน้าใส" ประชาชนในอดีตมีความเอื้อเฟื้อ เผื่อแผ่ เกื้อกูล ซึ่งกันและกัน มีความรักชาติบ้านเมือง สามัคคีปองดอง ไม่ว่าปัญหาจะใหญ่แค่ไหนก็จะแก้ปัญหานั้นและผ่านไปได้เสมือนกันปัญหานั้นเล็กเท่าขี้ตาแมว ซึ่งแตกต่างจากปัจจุบัน ประชาชนส่วนมากมุ่งแต่จะกอบโกยผลประผลประโยชน์แต่ส่วนตน ให้ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างไร้ประโยชน์ไม่รู้จักบำรุงรักษา หวังแต่จะเอาของคนอื่นมาเป็นของตนเองโดยมิชอบธรรม พยายามขวนขวายทุกวิถีทางโดยไม่คำนึงว่าวิธีการนั้นจะถูกหรือผิดเพื่อได้มาซึ่งความต้องการของตนเองยอมกระทำทุกอย่างซึ่งบางครั้งอาจเกินตัว และก่อให้เกิดปัญหาแก่ส่วนร่วมได้และละทิ้งปัญหานั้นไว้ จนก่อให้เกิดความเสียหาย จนไม่สามรถที่จะแก้ไขปัญหาเหล่านั้นได้ซึ่งเหตุมาจากคำว่า "ต้องการ" ยิ่งเมื่อมีการศึกษาเข้ามาพัฒนาบุคคลให้มีความรู้ความสามารถความก้าวของโลกว่าเปลี่ยงแปลงไปอย่างไรบ้างและไม่ให้ชาวโลกมองว่าเป็นบ้านเมืองล้าสมัยไม่มีการพัฒนา ซึ่งแต่ละบุคคลก็จะมีความรู้ความสามารถที่แตกต่างกันไปซึ่งในส่วนนี้เองเอามา และพัฒนาประเทศชาติให้เจริญรุ่งเรื่อง และมีศักยภาพเพื่อที่จะไม่ต่อสู้กับประเทศอื่นได้ แต่เมื่อบางครั้งความรู้ความสามรถที่มีอยู่ในตัวบุคคล ซึ่งทำให้บางบุคคลคิดว่าความคิดของตนเองถูกต้องแล้ว แต่บุคคลอื่นก็คิดว่าความคิดของตนเองก็ถูกต้องแล้ว และไม่ยอมร่วมกันประสานความคิดแต่จะเอาความคิดของตนเองเป็นหลัก เมื่อมีบุคคลเพิ่มมากขึ้นความคิดก็หลากหลายแตกต่างกัน จึงอาจทำให้เกิดปัญหาต่างๆตามมา โดยเพียงการไม่รู้ยอมรับฟังความคิดเห็นซึ่งกันและกัน โดยปัญหาที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบต่อประเทศมากมาย ไม่ว่าจะเป็นด้านเศรษฐกิจ ด้านสังคม ด้านสิ่งแวดล้อม ด้านสาธารณสุข ด้านการเมือง เป็นต้น ซึ่งยังมีปัญหาเกิดขึ้นในสังคมไทยอีกมากมาย ซึ่งปัญหาเหล่านี้ทำให้ประชาชนในประเทศเกิดความตึงเครียด วิตกกังวล ขาดความสงบสุขในการดำเนินชีวิต
ซึ่งปัญหาต่างๆที่เกิดในสังคมไทยจะเกิดถ้าทุกคนยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่นหันหน้ามาคุยกันว่ามีปัญหาอย่างไรและมีแนวทางแก้ไขได้อย่างไรบ้างและประสานความรู้ความสามารถที่ตนเองมีนำมาแก้ปัญหาก็จะผ่านพ้นอุปสรรคต่างๆไปได้อย่างโดยดี ทั้งนี้ในการรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่นต้องรู้เอาใจเขามาใส่ใจเรา และโดยไม่คิดว่าความคิดของตนเองดีเลิศประเสริฐศีร ก็จะทำให้ประเทศไทยสงบสุข น่าอยู่ร่มเย็น ประชาชนมีความรักใคร่สามัคคีปองดองเมื่อดังเช่นที่เคยผ่านมาในอดีตกาล
นางสาวทิพย์สุคนธา น้อยสำลี รหัสนักศึกษา 55113400165 ตอนเรียน D1
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น